หน้าเว็บ

อัฟเดทข่าวประกันสังคมกันหน่อยคับ
(นายณัฏฐ์ปพัฒน์ ยิ้มสงวน)
Posted by Picasa

สิทธิประกันสังคมที่ควรรู้

ทักทาย
สวัสดีครับในสังคมปัจจุบันสำหรับบุคคลที่ทำงานแล้วมีสิทธิเกี่ยวกับประโยชน์เกี่ยวกับประกันสังคมแต่น่าเสียดายที่ไม่รู้ว่าเงินที่หักเข้าสู่ระบบประกันสังคมหักมาทำไมบางคนบ่นว่าเสียเงินทุกเดือนแต่ไม่ได้อะไรเลย บางคนยังไม่รู้ว่าตัวเองมีสิทธิอะไรบ้าง ถ้าอย่างนั้นมาตามดูกันดีกว่านะขอรับว่ายังมีอะไรดีๆอีกเยอะที่พวกเราควรจะทราบตามมาครับ

การประกันสังคมคืออะไร

การประกันสังคม คือ การสร้างหลักประกันในการดำรงชีวิตในกลุ่มของสมาชิกที่มีรายได้และจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมเพื่มรับผิดชอบในการเฉลี่ยความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากการเจ็บป่วย คลอดบุตร ทุพพลภาพ ตาย สงเคราะห์บุตร ชราภาพ และการว่างงาน เพื่อให้ได้รับการรักษาพยาบาล และมีเงินทดแทนการขาดรายได้อย่างต่อเนื่อง

เมื่อใดจึงจะได้รับสิทธิ?????

กรณีเจ็บป่วยและกรณีทุพพลภาพ เมื่อจ่ายเงินสมทบมาแล้ว ไม่น้อยกว่า 3 เดือนภายในระยะเวลา 15 เดือนก่อนวันรับบริการทางการแพทย์

กรณีคลอดบุตร เมื่อจ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 7 เดือน ภายในระยะเวลา 15 เดือน ก่อนวันคลอด

กรณีตาย เมื่อจ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 เดือน ภายในระยะเวลา 6 เดือน ก่อนวันคลอด

กรณีสงเคราะห์บุตร เมื่อจ่ายเงินสมทบมาแล้ว ไม่น้อยกว่า 12 เดือนภายในระยะเวลา 36 เดือน ก่อนเดือนที่มีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทน

กรณีชราภาย เมื่อมีอายุครบ 55 ปี และความเป็นผู้ประกันตนสิ้นสุดลงหรือเมื่อเป็นผู้ทุพพลภาพ หรือเมื่อเสียชีวิต

กรณีว่างงาน เมื่อจ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 6 เดือน ภายในระยะเวลา 15 เดือน ก่อนการว่างงาน

ผู้ประกันตนจะได้รับประโยชน์อย่างไรบ้าง???

กรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยที่ไม่เกี่ยวกับการทำงาน จะได้รับบริการทางการแพทย์ เงินทดแทนการขาดรายได้ ค่าบริการทางการแพทย์กรณีถอนฟัน อุดฟัน ขูดหินปูน และการใส่ฟันเทียมชนิดถอนได้ฐานอคริลิก ค่าอวัยวะเทียมและอุปกรณ์บำบัดโรค การบำบัดทดแทนไตโดยการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม การล้างช่องท้องด้วยน้ำยาแบบถาวรและการปลูกถ่ายไต การปลูกไขกระดูก การผ่าตัดเปลี่ยนกระจกตา

กรณีคลอดบุตร จะได้ค่าคลอดบุตรและเงินสงเคราะห์การหยุดงานเพื่อการคลอดบุตร

กรณีทุพพลภาพ จะได้เงินค่าบริการทางการแพทย์และเงินทดแทนการขาดรายได้ ค่าอวัยวะเทียมและอุปกรณ์บำบัดโรค ค่าฟื้นฟูสมรรถภาพของผู้ทุพพลภาพ ค่าทำศพ และเงินสงเคราะห์กรณีตาย

กรณีตาย จะได้รับค่าทำศพและเงินสงเคราะห์กรณีตาย

กรณีสงเคราะห์บุตร จะได้รับเงินสงเคราะห์บุตรสำหรับบุตรชอบด้วยกฎหมายที่อายุไม่เกิน 6 ปี คราวละไม่เกิน 2 คน โดยเหมาจ่ายเดือนละ 350 ต่อบุตร 1 คน

กรณีชราภาพ จะได้รับเงินบำเหน็จชราภาพ หรือเงินบำนาญชราภาพขึ้นอยู่กับระยะเวลาการนำส่งเงินสมทบของผู้ประกันตน

กรณีว่างงาน หากถูกเลิกจ้างจะได้รับเงินทดแทนครั้งละไม่เกิน 180 วันในอัตราร้อยละ 50 ของค่าจ้าง หากลาออกจากงานจะได้รับเงินทดแทนปีละไม่เกิน 90 วัน ในอัตราร้อยละ 30 ของค่าจ้าง

หมายเหตุ ทั้งนี้สิทธิประโยชน์ 4 กรณีแรกสำนักงานฯ จะให้ความคุ้มครองต่อไปอีก 6 เดือน นับแต่สิ้นสภาพการเป็นลูกจ้าง

กรณีเจ็บป่วยจะได้อะไร

ได้รับการรักษาพยาบาลโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ เมื่อเข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลตามบัตรรับรองสิทธิหรือเครือข่ายของสถานพยาบาลนั้นและกรณีที่ต้องหยุดพักตามคำสั่งแพทย์หากหมดสิทธิได้รับค่าจ้างจากนายจ้างในวันลาป่วยตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงานแล้วจะได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้ร้อยละ 50 ของค่าจ้าง แต่ไม่เกิน 90 วันต่อครั้งและไม่เกิน 180 วันต่อปี เว้นแต่ ป่วยด้วยโรคเรื้อรัง จะได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้ไม่เกิน 365 วัน

กรณีคลอดบุตร จะได้สิทธิอย่างไร???

ผู้ประกันตนจะได้รับค่าคลอดบุตรคนละ 2 ครั้ง โดยมีสิทธิดังนี้
ผู้ประกันตนหญิง สามารถคลอดบุตรที่สถานพยาบาลใดก็ได้ แล้วนำสำเนาสูติบัตรของบุตร สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน มาเบิกเงินที่สำนักงานประกันสังคม จะได้รับเงินเหมาจ่ายค่าคลอดบุตร จำนวน 13,000 บาท และยังจะได้รับเงินสงเคราะห์การหยุดงานเพื่อการคลอดบุตรอีก ในอัตราร้อยละ 50 ของค่าจ้างเฉลี่ยเป็นเวลา 90 วัน
ผู้ประกันตนชายที่มีภริยาจดทะเบียนสมรส หรือหญิงซึ่งอยู่กินฉันสามีภริยาแต่มิได้จดทะเบียนสมรส สามารถคลอดบุตรที่สถานพยาบาลใดก็ได้แล้วนำสูติบัตรของบุตร สำเนาทะเบียนสมรส (ถ้ามี) หรือหนังสือรับรองกรณีไม่มีทะเบียนสมรส (เฉพาะกรณีผู้ประกันตนใช้สิทธิแล้วไม่ได้จดทะเบียนสมรสกับภริยา) มาเบิกที่สำนักงานประกันสังคมจะได้รับเฉพาะเงินเหมาจ่ายค่าคลอดบุตรจำนวน 13,000 บาท

หมายเหตุ ประกาศฯ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2554